มาดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์กัน
ประเภทของเฟอร์นิเจอร์มีดังนี้
1.เฟอร์นิเจอร์ไม้แลคเกอร์ : ไม่ควรนำวัสดุร้อนจัด เช่น กาน้ำร้อน บุหรี่ วางโดยตรงโดยไม่มีวัสดุรองรับ, ระวังการกระแทกจากของแข็ง เพราะ อาจทำให้เกิดรอยบุบ ยุบได้การทำความสะอาด ทำความสะอาดปกติด้วยแปรงปัดฝุ่ น,ผ้าหมาด และสามารถใช้น้ำยาขัดเงาประเภท WAX สำหรับเฟอร์นิเจอร์แลคเกอร์เงา
2.เฟอร์นิเจอร์ประเภทลามิเนต : ไม่ควรนำวัสดุร้อนจัด เช่น กาน้ำร้อน บุหรี่วางโดยตรงโดยไม่มีวัสดุ รองรับ , เฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการย้ายไม่ ควรใช้วิธีลากและไม่ควรให้เปี ยกน้ำเป็นเวลานานๆ การทำความสะอาดคราบกาแฟ ใช้น้ำสบู่ทำความสะอาดแล้วเช็ ดแห้ง คราบหมึกรีบทำความสะอาดทันทีด้ วยน้ำยาซักผ้า คราบสารเคมีอาจเกิ ดคราบถาวรควรรีบทำความสะอาด ทันทีแล้วเช็ดด้วยน้ำสะอาดอี กครั้ง
3.เฟอร์นิเจอร์ประเภทหนังแท้ : ไม่ควรให้ถูกแสงแดดมาก อาจทำให้ ผิวหนังกรอบได้ ระวังของมีคมจะทำให้หนังเสียหาย การทำความสะอาด โดยเช็ดด้วยผ้าหมาดน้ำหรือแชมพู อ่อนๆ หากสกปรกมากให้ใช้น้ำมันจักรหรื อน้ำยาทำความสะอาดหนังแท้โดยตรง ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่ไม่ ระบุ สำหรับหนังแท้ อาจทำให้หนังแข็ง กระด้าง
4.เฟอร์นิเจอร์ประเภทหนังเทียม : ไม่ควรให้ถูกแสงแดดมาก อาจทำให้หนังกรอบเสียหายได้ ระวังของมีคมจะทำให้หนังเสี ยหายการทำความสะอาดโดยเช็ดด้วย ผ้าหมาดน้ำหรือแชมพูอ่อนๆ หากสกปรกมากให้ใช้น้ำ ยาทำความสะอาดทั่วไปเช็ ดทำความสะอาดควรหลีก เลี่ยงการใช้น้ำมันก๊าด
5.เฟอร์นิเจอร์ประเภทโครเมียม : ไม่ควรให้ถูกขูดหรื อกระแทกจากของแข็ง ของมีคมเพราะจะเกิดรอยที่ไม่ สามารถลบได้หลีกเลี่ยงคราบเกลื ออาจทำให้เกิดสนิม การทำความสะอาดเช็ดด้วยผ้านุ่ มหมาดน้ำ หากต้องการขัดเงาทำได้โดยโรยแป้ ง ฝุ่นให้ทั่วบริเวณแล้วใช้ผ้านุ่ มเช็ดออกให้หมด
ขั้นตอนการเลือกซื้อเฟอร์นิ เจอร์หวาย
1.การพิจารณาเลือกซื้อเฟอร์นิ เจอร์หวายมาใช้งาน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นลำดั บแรกก็คือ เรื่อง ความละเอียดของงาน โดยดูได้จากเส้นตั้งว่าเป็ นระเบียบหรือไม่ เพราะถ้าตั้งเสาหรือขึ้นเสาไม่ ดี เฟอร์นิเจอร์หวายจะไม่สวยงาม และหากช่างขาดความชำนาญด้วยแล้ว เส้นตั้งที่ได้จะไม่ตั้งตรง (โย้ไปเย้มา) เมื่อนำไปใช้งานจริงจะเสี ยหายได้เร็วกว่าเวลาอันควร
2.ก่อนจะซื้อเฟอร์นิเจอร์ หวายให้ลองจับที่พื้นผิวของหวาย เช่น หน้าโต๊ะ ที่รองนั่ง ฯลฯ ดูว่าปราศจากเสี้ยนหรือไม้ สานหวายได้ตึงและแน่นดีหรือเปล่ า ถ้าไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวก็ไม่ ควรซื้อมาใช้งาน เพราะเฟอร์นิเจอร์หวายที่สานไม่ แน่น เมื่อโดนอากาศเย็นและชื้น เส้นหวายจะเคลื่อนตั วจากโครงหวาย ทำให้ผิวหวายหย่อนได้ง่าย
3.ให้ดูระยะห่างของเส้นตั้ง โดยประมาณด้วยสายตาว่าเท่ากั นหรือใกล้เคียงกันหรือไม่ เพราะช่างฝีมือที่มี ความชำนาญเขาจะใช้ ความสามารถเฉพาะตัวในการสานเส้ นตั้ง ซึ่งจะขึ้นเป็นคู่ๆ เรียงกันไปอย่างเป็นระเบี ยบสวยงาม โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือวัดไดๆ นอกจากสายตาของช่างสานเอง
4.เคล็ดลับอีกประการหนึ่ งในการสานหวายให้สวยงามนั้นก็คื อ การให้แรงในการดึง เพื่อให้พื้นผิวของหวายตึ งและแข็งแรง ซึ่งส่วนใหญ่ช่างสานที่เป็นผู้ ชายจะทำได้ดีกว่าช่างสานที่เป็ นผู้หญิง เนื่องจากผู้ชายจะมี แรงกดและแรงดึงที่ดี แต่ทั้งนี้ให้สังเกตที่จุดต่ อเชื่อมของโครงหวายเป็นหลัก ซึ่งต้องมัดให้แน่นเท่ากัน และควรรัด 2-3 รอบต่อจุด เพื่อความแข็งแรงทนทาน
5.สำหรับการดูสีของเนื้อหวาย ว่าเป็นหวายที่มีคุณภาพหรือไม่ นั้น ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่ องยากพอควรในการสังเกตแต่เพี ยงรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งนี้เพราะหวายมีมากมายหลายพั นธุ์ แต่ละชนิดก็มีสีผิวที่ต่างกั นตามสายพันธุ์และถิ่นกำเนิด เช่น หวายน้ำผึ้ง หวายแดง ฯลฯ ซึ่งในขั้นตอนหนึ่ งของการสานหวายนั้นเส้นหวายที่ จะนำมาสานต้องถูกนำไปฟอกหรือย้ อมสีก่อน และการฟอกสีหวายนี้ไม่ทำให้เส้ นหวายเสียหายอย่างที่หลายคนเข้ าใจ แต่กลับช่วยเพิ่มสีสันให้ งานเฟอร์นิเจอร์หวายมีเสน่ห์ มากขึ้น
6.ดังนั้นหวายจะมีคุณภาพดีหรื อไม่นั้น ไม่ใช่ดูเพียงแค่สีผิ วของหวายหรือสีสันที่เราชื่นชอบ แต่ควรทราบแหล่งที่มาของวัตถุดิ บซึ่งนำมาประกอบเป็นเฟอร์นิ เจอร์ด้วย เช่น ผิวหวายที่มีคุณภาพสามารถรับน้ำ หนักได้ดี ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจี นหรืออินโดนีเซีย เป็นต้น ซึ่งเราอาจสอบถามรายละเอี ยดจากผู้ขายได้โดยตรง
7.หวายเป็นวัสดุจากธรรมชาติที่ มีความแข็งแรงทนทาน เมื่อนำมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ จึงมีอายุการใช้งานยาวนาน เฟอร์นิเจอร์หวายจะไม่ชำรุดถ้ าเราไม่ได้นำไปใช้งานหนักหรื อใช้งานผิดประเภท เช่น ปล่อยให้ตากแดดตากฝน หรือให้เด็กๆ ขึ้นไปกระโดดโลดเต้น ดังนั้นเมื่อเฟอร์นิเจอร์หวายถู กกระแทกหรือเสียดสีบ่อยครั้ง ก็ควรรีบนำไปซ่อมแซมให้เรียบร้ อย เพราะเฟอร์นิเจอร์หวายสามารถใช้ งานได้ยาวนานกว่า 20 ปีทีเดียว
วิธีซ่อมสีเฟอร์นิเจอร์เก่า
1.ขัดสีเก่าออกด้ วยกระดาษทรายหยาบเบอร์ 4 หรือ ผ้าทรายหยาบ ให้สีเก่าออกหมด ตามซอกมุมต่างๆ ให้ใช้กระดาษาทรายทับเพื่ อสอดเข้ามุม แล้วปัดฝุ่นผงขัดให้สะอาด
2.ขัดเรียบอีกครั้งด้ วยกระดาษทรายเบอร์ 2 เพื่อให้ผิวเฟอร์นิเจอร์เรี ยบเนียน และ ทำความสะอาดอีกครั้ง
3.ทาชแลคสำเร็จรูปรองพื้นก่อน 1 เที่ยว เพื่อป้องกัน สีหรือยางไม้ ออกมาแล้วค่อยทาสีตามต้ องการโดยทาสีแต่ละเที่ยวทิ้ งระยะห่างประมาณ 1 ชั่วโมง สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่โชว์ ลายให้ทาสีแลกเกอร์ผสมทินเนอร์ ในอัตราส่วน 1:1 เช่นกัน
4.ในส่วนที่ไม่ใช่พื้นเรียบที่ ไม่สามารถทาด้วยแปรงได้สะดวกนั้ นเช่น ขาเก้าอี้ ตามซี่ของพนักพิง ให้ใช้ถุงมือสำหรับทาสีชุบสีบี บสีให้หมาดๆ แล้วกำส่วนที่ต้องการทาสี หลวมๆรูดไปมาจนทั่ว
วิธีซ่อมแซมแผ่นหน้าโต๊ะหลุดร่ อน
1.ผิวหน้าโต๊ะที่พองบริ เวณขอบหน้าโต๊ะสามารถแก้ไขได้ โดย ใช้เตารีดทับรองด้วยแผ่นอลูมิ เนียมฟอล์ยให้กาวที่ทาประสานอ่ อนตัว ลอกแผ่นวีเนียรที่พองออกได้ด้ วยเหล็กโป้วสีค่อยๆแซะออก
2.ขูดคราบกาวที่ติดอยู่ออกด้ วยเหล็กโป๊วขูดสีและขัดด้ วยกระดาษทรายให้ สะอาดและทากาวยางหรือกาวลาเทกซ์ ลงให้ทั่วทับแผ่นวีเนียรด้ วยแคล็มป์โดยมีแผ่นไม้ มาวางรองกันผื้นผิวเป็นรอยทิ้ งไว้ประมาณ 3 ชม.
3.สำหรับแผ่นหน้าโต๊ะที่เป็ นรอยเสียหายต้องเปลี่ยนมีขั้ นตอนดังนี้ วางกระดาษสำหรับทำแบบบนรอยเสี ยหาย ตัดแผ่นวีเนียรที่เสี ยหายออกโดยตัดผ่านกระดาษแบบด้ วยมีดอเนกประสงค์
4.แซะลอกแผ่นปิดผิวหน้าออกด้ วยเหล็กโป้วสีขนาด 1 นิ้ว ลอกออกแผ่นวีเนียรที่เสียออก แซะทำความสะอาดผิวพื้นโต๊ะขัดด้ วยกระดาษทรายละเอียด ไม่ให้มีเศษกาวเหลืออยู่
5.ตัดแผ่นวีเนียรแผ่นใหม่ ตามแบบกระดาษที่ตัดมาพร้อมกั บแผ่นหน้าที่เสียหาย โดยวางให้ลายของแผ่นใหม่ ไปทางเดียวกันกับลายของหน้าโต๊ ะเดิม
6.ทากาวยาง หรือ กาวลาเทกซ์ ที่ด้านหลังของแผ่นใหม่ วางลงในช่องกดปรับ ให้ผิวหน้ามีระดับเท่ากันกับแผ่ นเดิมและลายให้ไปทางเดียงกัน กดทับด้วยของหนักไว้ประมาณ 3 ชม. รอจนกาวเซ๊ทตัวก่อนนำไปใช้งาน
ที่มาBaanNut99.com