หุ้นกู้ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3/2566
วันที่ 1-2 และ 6 มิถุนายน 2566 นี้
ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
จุดเด่น
-
บริษัทประกอบธุรกิจ (1) ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (2) ธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ และ (3) ธุรกิจการลงทุนในต่างประเทศ
-
บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย โดยนำเสนอทั้งผลิตภัณฑ์และบริการด้านการอยู่อาศัยที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างครบวงจร และสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย*
-
บริษัทฯ เคยออกหุ้นกู้มาแล้ว 51 ชุด ตั้งแต่ปี 2552** และมีประวัติชำระหนี้ที่ดีมาโดยตลอด
-
หมายเหตุ :
*ข้อมูลจาก www.sansiri.com ณ วันที่ 25 เมษายน 2566
*ข้อมูลจาก https://www.ibond.thaibma.or.th ณ วันที่ 25 เมษายน 2566
วัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้
เพื่อทดแทนเงินคงคลังขอบริษัทที่ใช้ไปในการชำระคืนหุ้นกู้ภายในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
คำเตือนและความเสียงที่สำคัญ
-
ความเสี่ยงต่อการดำเนินธุรกิจที่สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและผลการดำเนินงานของผู้ออกหุ้นกู้ อาทิ ความเสี่ยงจากการจัดหาที่ดิน ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถหาที่ดินมาพัฒนาโครงการได้เพียงพอกับเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลจากราคาที่ดินที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง และความผันผวนของราคา ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการพัฒนาโครงการของแสนสิริ ความเสี่ยงจากการที่โครงการคอนโดมิเนียมจะไม่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
-
บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ลดลงจากสิ้นปี 2564 ที่อยู่ที่ 13.41 เท่า โดย ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 10.64 เท่า และมีอัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย อยู่ที่ 2.94 เท่า จากการเพิ่มขึ้นของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย แม้หนี้สินจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ บริษัทยังมียอดขายรอการรับรู้รายได้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและออกหุ้นกู้ และ / หรือตั๋วแลกเงินชุดใหม่มาทดแทนหุ้นกู้ และ / หรือตั๋วแลกเงินที่ครบกำหนด และยังมีวงเงินจากสถาบันการเงิน เพื่อรองรับการชำระหนี้สินดังกล่าว
-
หากลูกค้าต้องการขายก่อนครบกำหนด ให้ติดต่อธนาคารพาณิชย์ / บริษัทหลักทรัพย์เพื่อให้หาผู้ซื้อให้ (ธนาคาร / บล.อาจมิได้รับซื้อไว้เอง) แต่ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ ซึ่งทำให้ขายไม่ได้ในทันที และ / หรือ อาจไม่ได้ราคาเท่ากับที่ซื้อมาหรือไม่ได้ราคาที่ต้องการโดยขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยและความต้องการของตลาดในขณะนั้น หรืออาจจะไม่สามารถหาผู้ซื้อได้เลยก็ได้ กรณีขายได้กำไร กำไรที่ได้จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 15 ตามหลักเกณฑ์กรมสรรพากร
จัดอันดับความน่าเชื่อถือ
โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อ วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
จองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท
เสนอขายผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป
ช่องทางการจองซื้อ
หมายเหตุ
การจองซื้อผ่านเว็บไซด์ K-My Invest สามารถจองซื้อ ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ของวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ถึงเวลา 23.30 น. ของวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2566 และ ตั้งแต่ 8.30 น. ถึงเวลา 15.30 น. ของวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2566 หรือตามดุลยพินิจของธนาคารฯ (ยกเว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดธนาคาร)
การจองซื้อผ่านเว็บไซด์ K-My Invest สามารถเลือกชำระได้ 2 วิธี ได้แก่
1.จ่ายด้วย K PLUS (ต้องชำระภายใน 10 นาทีไม่เช่นนั้นรายการจองจะยกเลิกโดยอัตโนมัติ)
-
กรณีลูกค้าโควต้าจองซื้อได้ตามยอดโควต้าที่ได้รับอนุมัติ
-
กรณีลูกค้า Walk-in สามารถชำระได้ 30 ล้านบาทต่อวัน (ไม่กินวงเงิน Bill Pay ปกติ) หากลูกค้าต้องการจองซื้อมากกว่านี้ สามารถมาทำรายการในวันต่อไปในช่วงการจองซื้อ
2.จ่ายด้วย mobile banking ธนาคารอื่น 11 ธนาคาร (ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน) วงเงินการชำระเงินขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของธนาคารนั้นๆ
(รวมถึงสามารถจ่ายด้วย K PLUS ได้ ซึ่งหากเลือกว่าชำระเงินผ่านช่องทางอื่นที่ไม่ใช่ K PLUS แต่สุดท้ายมาใช้ K PLUS จ่ายจะมีวงเงิน
การทำรายการได้สูงสุดตามวงเงิน Bill Payment ของลูกค้า) ค่าธรรมเนียมการโอน / ชำระเงิน ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร
เงื่อนไขการจองซื้อ
จะต้องเป็นลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยที่มีสัญชาติไทย และได้ลงทะเบียนฺพิสูจน์ตัวตนที่ระดับ IAL 2.3 แล้ว เช่น การลงทะเบียน NDID,
การเปิดบัญชี K-eSaving, การสมัคร Line BK, และการทำแบบประเมิน CRR
บริการ NDID บริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิตัล
เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ขอรับจองซื้อที่สำนักงานใหญ่หรือสาขาของธนาคารเฉพาะกรณี
-
ผู้จองซื้อประเภทบุคคลธรรมดาสัญชาติต่างด้าว
-
ผู้จองซื้อประเภทนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศ หรือต่างประเทศเท่านั้น
ในกรณีผู้จองซื้อประเภทบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่บรรลุนิติภาวะแล้วโปรดดำเนินการจองซื้อผ่านทางเว็บไซต์ www.kasikornbank.com/kmyinvest ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับวิธีการจองซื้อ
และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม
สอบถามเพิ่มเติมที่ K-contact Center : 02-8888888 กด 819