หุ้นกู้บริษัทเมเจอร์ดีเวลลอปเม้นท์จำกัด(มหาชน)ครั้งที่ 3/2567

MJD เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 2 ปี 6 เดือน 

ดอกเบี้ย 7.30%-7.40% 

ขายสถาบัน-รายใหญ่ 26-27 และ 30 ก.ย. 67

หุ้นกู้เสี่ยงสูงมีประกันของ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3/2567 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2570 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน คาดว่า เปิดจองซื้อ 26-27 และ 30 ก.ย. 67 ผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบัน (II/HNW)

วัตถุประสงค์

• เพื่อใช้ชำระคืนหุ้นกู้MJD240A จำนวน 900 ล้านบาท

• เพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน จำนวน [.] ล้านบาท

• เพื่อใช้พัฒนาโครงการในอนาคตหรือใช้จ่ายในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน จำนวน [.] ล้านบาท

• เพื่อใช้หมุนเวียนในกิจการ จำนวน [.] ล้านบาท

หลักประกัน

1. โรงแรม เซ็นทรา บายเซ็นทารา มาริส จอมเทียน มูลค่าประเมินประมาณ 1,141 ล้านบาท

2. อาคารสำนักงาน โครงการเมเจอร์ ทาวเวอร์ ทองหล่อ มูลค่าประเมินประมาณ 1,112 ล้านบาท

มีมูลค่ารวมของหลักประกันไม่ต่ำกว่า 1.00 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขายได้

ในกรณีที่จำนวนหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายได้ ณ วันปิดการเสนอขาย มีจำนวนน้อยกว่าจำนวนหุ้นกู้ทั้งหมดที่เสนอขาย ผู้ออกหุ้นกู้อาจพิจารณาเปลี่ยนแปลงรายการของอสังหาริมทรัพย์ที่จะนำมาเป็นประกัน โดยการนำอสังหาริมทรัพย์โครงการอื่นๆ ของผู้ออกหุ้นกู้ที่ปลอดภาระผูกพันมาเป็นประกันของหุ้นกู้ชุดนี้แทน

ประเด็นที่น่าสนใจ

1. มีแบรนด์โครงการระดับ Luxury เป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้าระดับบน ภายใต้แบรนด์ เช่น Metris, MARU, Maestro, Malton, MUNIQ เป็นต้น สร้างรายได้จากการขายโครงการ 2,380 – 3,170 ล้านบาทต่อปีในปี 2565 – 2566

ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 MJD มี Backlog กว่า 2,649 ล้านบาท (ไม่รวม JV) คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปี 2567 ประมาณ 1,110 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากโครงการ มอลตันเกทส์ กรุงเทพกรีฑา ประกอบกับในปี 2568 มีแผนรับรู้รายได้จากการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์โครงการ เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว ที่มี Backlog ประมาณ 1,531 ล้านบาท

นอกจากนี้ในปี 2570-2572 คาดว่าจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการเริ่มโอนโครงการร่วมทุนโครงการ MUNIQ พร้อมพงษ์ และเจริญกรุง ที่มี Backlog รวมกันกว่า 4,800 ล้านบาทอีกด้วย

2. มีแผนพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น เพื่อสร้างความสม่ำเสมอของรายได้ MJD ตั้งเป้าให้มีสัดส่วนรายได้มาจากคอนโดมิเนียม 60% และบ้านแนวราบ 40% โดยในปี 2567 – 2568 MJD มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 33,000 ล้านบาท โดยโครงการแนวราบคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 เป็นต้นไป ในส่วนของคอนโดมิเนียมคาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ได้ในปี 2569 ซึ่งจะทำให้ MJD มีรายได้สม่ำเสมอมากขึ้น

นักลงทุนและผู้สนใจ สามารถติดต่อผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้

• บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด  โทรศัพท์ 02-249-2999

• บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทรศัพท์  02-680-4004

• บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทรศัพท์ 02-695-5000

• บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โทรศัพท์ 02-687-7543

• บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 02-659-5272, 5273

• บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 02-660-6688

• บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 02-351-1801

• บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 02-205-7000

• บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด โทรศัพท์ 02-430-6543

• บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 02-635-1700

ที่มา: Major Development