พลังงานและพัฒนาการของเด็กมีความแตกต่างจากของผู้ใหญ่ค่อนข้างมาก เนื่องจาก “ชี่” (พลังปราณ) ของเด็กมีความพร้อมในการรับสิ่งต่างๆ รอบตัวสูงมากกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นธรรมชาติของพัฒนาการวัยเยาว์ของมนุษย์ ชี่จะถูกกำหนดรูปร่างและได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่เด็กๆ อาศัยอยู่ เช่น ถ้าบรรยากาศบ้านนั้นอลหม่านและตึงเครียด โครงสร้างของพลังงานที่กำหนดแม่แบบของพวกเขาก็จะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต เรียกว่าเป็นการปลูกจิตสำนึกเลยก็ว่าได้
นั่นหมายความว่าถ้าเราเอาใส่ใจฮวงจุ้ยต่อเขาตั้งแต่เด็ก ก็จะเป็นการช่วยเด็กให้ได้รับผลดีจากการจัดฮวงจุ้ย และเป็นการปรับพื้นฐานเพื่อช่วยเหลือเขาได้แม้ว่าช่วงดวงชะตาชีวิตในอนาคตของเขาจะไม่ดี ดังนั้นคำแนะนำหรือข้อห้ามเหล่านี้ ผู้ที่เป็นพ่อแม่สามารถนำไปใช้กับลูกๆ ได้คือ
เลี่ยงเตียงนอนสองชั้น เตียงแบบนี้ในทางฮวงจุ้ยจะทำให้ชี่กดทับร่างกาย (เด็กที่นอนอยู่ด้านล่าง) ทำให้ พัฒนาการและการเติบโตของเด็กไม่เต็มศักยภาพ ส่วนเด็กที่นอนอยู่ด้านบนก็อาจจะอึดอัดได้เช่นกันหากฝ้าเพดานห้องนอนนั้นไม่สูงพอ ขอแนะนำให้เลือกที่นอนเป็นเตียงแบบทั่วไปจะดีกว่า
ตำแหน่งหัวนอนควรมองเห็นประตู เพื่อจะได้รู้ว่าใครกำลังจะเข้ามาในห้อง หากนอนแล้วไม่เห็นประตูสามารถช่วยได้โดยการติดกระจกเพื่อให้เห็นภาพสะท้อนของการเดินเข้าประตู จะเป็นการปลูกจิตสำนึกให้เด็กตื่นตัวเกิดความพร้อมและความระมัดระวัง โดยตำแหน่งหัวนอนนั้นควรไกลจากห้องน้ำ
พลังงานประจำทิศหัวนอน พ่อแม่สามารถนำวันเดือนปีเกิดของลูกไปให้ซินแสผู้มีความรู้ทำการวิเคราะห์ดวงชะตา เพื่อจะได้รู้ว่าเด็กได้รับพลังงานในลักษณะใดในตอนเกิด หรือต้องส่งเสริมด้วยธาตุอะไรเพื่อปรับดวงชะตาให้เด็กประสบผลสำเร็จในชีวิต ซึ่งสามารถใช้ทิศการหันหัวนอนของเด็กเป็นการเติมพลังที่เด็กต้องการแบบเฉพาะเจาะจง
นอกจากนี้เรายังนำความรู้เรื่องธาตุสำคัญนี้มาใช้สำหรับการเลือกเตียงและวัสดุที่ใช้ปรับแต่งห้องให้เข้ากับเด็ก เช่น เด็กที่ต้องการพลังงานธาตุไฟก็เลือกใช้เตียงทำจากไม้ และหันหัวนอนไปทางทิศใต้ซึ่งมีพลังธาตุไฟ เป็นต้น
เลือกโทนสีที่เหมาะกับธาตุสำคัญ กรณีที่ไม่รู้ธาตุปรับดวงสามารถให้เด็กมีส่วนร่วมในการเลือกสี โทนเขียวเพื่อเสริมการศึกษา โทนสีชมพูสำหรับเด็กหญิงที่ต้องการความน่ารักอ่อนหวาน นอกจากนี้แสงในห้องไม่ควรสว่างจ้าเกินไปจนไม่เหมาะต่อการพักผ่อน แต่ก็ไม่ควรให้สภาพห้องมืดเกินไปจนมีพลังหยินมาก เพราะจะทำให้เด็กขี้เกียจ ที่สำคัญห้องที่เด็กนอนนั้นแสงแดดควรส่องถึงและอากาศถ่ายเทได้ดี
ตำแหน่งของเตียงนอนจะต้องเลี่ยงศรพิฆาต หมายถึงการเลี่ยงมุมแหลมต่างๆ ที่ทิ่มใส่ร่างกายของเด็ก รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่มีสภาพแหลมคมด้วย เพื่อให้เด็กเล็กปราศจากอันตรายจากเครื่องเรือนตลอดจนพลังที่มองไม่เห็น ซึ่งสะสมเป็นเวลานานจากการที่มีศรพิฆาตพุ่งใส่ และจะก่อให้เกิดการเจ็บป่วยที่อวัยวะนั้นๆ
ผมมีตัวอย่างที่น่าสนใจ คือลูกชายของคุณอภิญญา ซึ่งเป็นเด็กเลี้ยงยาก ค่อนข้างก้าวร้าว ดูซึมมากกว่าปกติ ไม่ค่อยทานอาหาร และไม่สนใจเรียน เมื่อวิเคราะห์จากวันเดือนปีเกิดแล้วพบว่าเป็นเด็กธาตุไฟ มีพรสวรรค์ด้านคณิตศาสตร์และการคำนวณ ห้องนอนเด็กอยู่ทางทิศเหนือ ด้านนอกปลูกต้นไม้บังหน้าต่างจนมืดครึ้ม เดิมเด็กนอนบนเตียงโลหะหันหัวนอนไปทางทิศเหนือ ซึ่งมีพลังธาตุน้ำที่ขัดแย้งกับธาตุในตัวของเด็ก
ผมจึงแนะนำให้ย้ายมานอนทิศหน้าบ้าน คือทิศใต้ หันหัวนอนไปทางทิศใต้ ซึ่งเป็นธาตุไฟที่เด็กชอบ แล้วเปลี่ยนเป็นเตียงไม้ซึ่งเป็นธาตุส่งเสริมไฟ บรรยากาศในห้องก็เพิ่มไฟให้สว่างขึ้น ผลจากการปรับแต่งฮวงจุ้ยโดยใช้ฤกษ์ยามเข้ากับทิศทางและดวงชะตาของเด็ก และแนะนำให้หาครูที่เก่งคณิตศาสตร์มาสอนพิเศษ มีกิจกรรมกลางแจ้งให้เด็กออกกำลัง ในเวลาเพียง 3 เดือนหลังจากได้ปรับฮวงจุ้ยเสริมธาตุไฟพร้อมกับการพัฒนาทักษะที่เด็กถนัด เด็กมีความแจ่มใสร่าเริงขึ้น มุ่งมั่นเอาใจใส่ต่อสิ่งที่เรียนมากขึ้นโดยเฉพาะคณิตศาสตร์ รับประทานอาหารได้ดีขึ้น ทำให้ลูกชายเธอและครอบครัวมีความสุขขึ้นมาก