เงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)

ข้อกำหนดและเงื่อนไขการลงทะเบียนเงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)

1. ผู้ลงทะเบียนที่ประสงค์เปิดบัญชีเงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ) เพื่อใช้บริการ ณ ธนาคารออมสินสาขา (“ผู้ลงทะเบียน”) สามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ http://www.gsb.or.th หรือ line Official : GSB Society (“ลงทะเบียน”) โดยธนาคารเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2566 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป และภายหลังการลงทะเบียนการฝากเงิน “เงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)” ผู้ลงทะเบียนสามารถตรวจสอบข้อมูลการลงทะเบียนได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ตามที่ธนาคารกำหนด
2. ผู้ลงทะเบียนจะต้องกรอกข้อมูลตามที่ธนาคารกำหนดให้ครบถ้วน โดยระบุจำนวนเงิน และเลือกมูลนิธิ ที่ต้องการบริจาค
3. ธนาคารเปิดรับฝาก “เงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)” ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2566 จำนวนเงินในการลงทะเบียนขั้นต่ำ 10,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนเงินสูงสุด
4. ผู้ลงทะเบียนใช้หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 1 หมายเลข ทำการลงทะเบียนได้ 1 ครั้งเท่านั้น
5. ผู้ลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนแทนผู้อื่นได้ โดยต้องระบุข้อมูลหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลนั้น ๆ
6. ผู้ลงทะเบียนตกลงและยอมรับ เมื่อมีการลงทะเบียนผ่านช่องทางของธนาคาร และปฏิบัติตามขั้นตอนที่ธนาคารกำหนดไว้จนปรากฏหน้าจอการลงทะเบียนการฝากเงิน “เงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)” แล้ว ให้ถือเป็นการลงทะเบียน โดยผู้ลงทะเบียนเอง และผู้ลงทะเบียนตกลงตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลการลงทะเบียนก่อนการยืนยันสำเร็จ
7. เมื่อลงทะเบียนสำเร็จแล้ว ผู้ลงทะเบียนถ่ายภาพหน้าจอการลงทะเบียนสำเร็จเพื่อเป็นหลักฐานในการติดต่อ รับบริการฝากเงิน “เงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)” กับธนาคาร ซึ่งเมื่อลงทะเบียนสำเร็จแล้ว ผู้ลงทะเบียนสามารถยกเลิกการลงทะเบียนได้
8. ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์เงื่อนไขการลงทะเบียนเงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ) ตามความเหมาะสม โดยธนาคารจะแจ้งหรือประกาศให้ทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ ตามที่ธนาคารเห็นสมควร

เงื่อนไขเงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)

1.ผู้ฝากจะต้องเป็นบุคคลธรรมดาอายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไป ที่มี ชื่อ – สกุล ตรงกับผู้ลงทะเบียนฝากเงิน และมีหลักฐานการบันทึกภาพหน้าจอการลงทะเบียนฝากเงิน “เงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)” สำเร็จจากธนาคารเท่านั้น
2.ผู้ฝากเปิดบัญชีได้คนละ 1 บัญชี เท่านั้น
3.ไม่รับฝากบัญชีเพื่อประโยชน์ของผู้เยาว์ บัญชีร่วม บัญชีคณะบุคคล และบัญชีนิติบุคคล
4.ต้องมีบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกเป็นบัญชีคู่โอน
5.เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท และฝากเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ได้ไม่เกินวันที่ 31 ตุลาคม 2566
6.ผู้ฝากจะได้รับอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 ต่อปี และบริจาคเงินในอัตราร้อยละ 0.20 ต่อปี ให้กับมูลนิธิช่วยเหลือสังคม
7.จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน โดยโอนเข้าบัญชีเผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอน ทุกวันสิ้นเดือน
8.จ่ายดอกเบี้ยเมื่อฝากครบ 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่ฝาก ธนาคารจะโอนยอดเงินฝากและดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากประเภทเผื่อเรียกที่เป็นบัญชีคู่โอนที่ผู้ฝากแจ้งไว้ ชนวันตามวันที่ฝาก
9.ถอนครั้งละเท่าใดก็ได้
10.ถอนหรือปิดบัญชีก่อนฝากครบ 6 เดือน จำนวนเงินที่ถอนจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.20 ต่อปี
11.ไม่หักภาษี ณ ที่จ่าย

เงื่อนไขการบริจาค

1.ผู้ฝากเลือกมูลนิธิที่ประสงค์จะบริจาคเงิน สามารถเลือกได้มากกว่า 1 มูลนิธิ ดังนี้

– มูลนิธิสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท

– มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย

– มูลนิธิบ้านนกขมิ้น

– มูลนิธิสืบนาคะเสถียร

2.ผู้ฝากจะได้รับอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 ต่อปี และบริจาคเงินในอัตราร้อยละ 0.20 ต่อปี ให้กับมูลนิธิช่วยเหลือสังคม

3.ธนาคารจะดำเนินการหักเงินบริจาคร้อยละ 0.20 ต่อปี หลังจากลงรับดอกเบี้ยทุกเดือนจากบัญชีคู่โอนและ
นำเงินไปบริจาคให้แต่ละมูลนิธิตามที่ผู้ฝากเลือกในเดือนถัดไป

4.ตัวอย่างการคำนวณเงินบริจาค :
วันที่ 1 สิงหาคม 2566 ฝากเงินจำนวน 1,000,000 บาท จะได้บริจาคเงิน ดังนี้

5.ธนาคารจะนำส่งข้อมูล ชื่อ-สกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และจำนวนเงินบริจาค ให้กับมูลนิธิดำเนินการบันทึกข้อมูลการบริจาคผ่านระบบ e-Donation โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลการบริจาคได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร (www.rd.go.th)

6.รายละเอียดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับฝากและเงื่อนไขการบริจาค “เงินฝากปันน้ำใจ (เผื่อเรียกพิเศษ)” ให้เป็นไปตามประกาศธนาคาร “การรับจ้างเปิดบัญชีและการซื้อขายบัญชีมีโทษตามกฎหมาย”

เรื่องที่น่าสนใจ